Thursday, September 4, 2014

อาจารย์ถวัลย์

ระลึกถึงความทรงจำเกี่ยวกับอาจารย์ถวัลย์
แม้ผมจะไม่เคยได้เจอตัวหรือมีโอกาสเสวนากับท่านโดยตรง
การได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบ้านดำก็เป็นความประทับใจแรกต่ออาจารย์

ผมและเพื่อนชาวไอดีได้มีโอกาสไปทริปเที่ยวเหนือช่วงปี4?
เราไปหลายที่ทั้ง เชียงใหม่ ลำปางและเชียงราย และที่เชียงรายตามกำหนดการคือเราไปเยี่ยมชมบ้านดำ
บ้านดำ ทำไมต้องดำ แล้วมีความสำคัญยังไง ใครเป็นเจ้าของ
สมองที่เกียจคร้านของผมไม่แม้แต่จะทำการศึกษาข้อมูลก่อนมาเยี่ยมชม
แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ผมและชาวไอดีก็มาอยู่ที่บ้านดำแล้ว
เรายืนอยู่กลางลานโล่งๆที่ล้อมไปด้วยบ้านทรงไทยและอาคารทรงโดมและทรงแปลกๆอยู่รอบๆ
บริเวณนั้นมีคนงานกำลังทำความสะอาดอยู่และไม่นานหลังจากเห็นพวกเรายืนอยู่กันสักพัก
ชายวัยกลางคนในชุดม่อฮ่อมเดินเข้ามาที่กลุ่มเรา และสักพักจึงสรุปความได้ว่าวันนี้อาจารย์ไม่อยู่
พวกเราจึงชมกันเองตามอัธยาศัยโดยมีคนนำเป็นจุดๆ ผมเองก็เดินไปตามกลุ่มเพื่อนๆและอาจารย์
เราเดินขึ้นลงบ้านไทยและดูงานปั้นบ้าง ของเก่าบ้างที่สะสมวางเรียงรายไว้อยู่ทั่วบ้าน
บ้างเป็นเหมือนอุปกรณ์จับปลาแต่ด้วยขนาดที่ใหญ่มากจึงไม่แน่ใจในจุดประสงค์ที่แท้จริง
งานปั้นที่ดูจะเป็นที่สนใจของเพื่อนๆ เห็นจะเป็นรูปปั้นช้าง และที่ผมจำได้ติดตาคือรูปปั้นช้างยิ้มขณะกำลังนั่งขี้ยองๆ
รอยยิ้มของช้างดูสดใสเหมือนรอยยิ้มเด็กก็ไมีปาน นอกนั้นเป็นของใช้ทั่วไป
ซึ่งของที่ดูเหมือนของทั่วไปนี่ล่ะ แต่ถ้าเพ่งมองดีๆจะเห็นถึงความละเอียดในแต่ล่ะที่
อย่างเช่นขั้นบันไดที่ประดับด้วยเปลือกหอยกาบระหว่างขั้น ซึ่งถ้าผมไม่เหยียบแตกไปอันนึงคงไม่สังเกตเห็น

จากนั้นเราได้เข้าไปที่อาคารทรงประหลาดหลังหนึ่ง ตรงกลางเป็นที่นั่งกึ่งนอนขนาดใหญ่และยาว ด้านหนึ่งประดับด้วยหัวเสือและขนสัตว์
ผมลองนั่งๆนอนๆบนที่นั่งนั้น แม้จะประดับด้วยขนสัตว์แต่ยังไม่อาจบดบังความกระด้างของวัสดุใต้ผิวนั้นได้
หรือบางทีที่นั่งนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อนั่งหรือนอน และรอบๆผนังด้านในก็เป็นเก้าอี้
ผมก็รู้สึกคุ้นตาเก้าอี้ตัวนึงมาก เก้าอี้ตัวนั้นทำจากเขาควายมาประกอบกัน
หลังจากนึกอยู่นานผมก็คิดออกว่าเคยเห็นเก้าอี้ที่ว่านี้จากไหน มาจากรายการขนหัวลุกนั่นเอง

จากนั้นเราเดินเยี่ยมชมไปเรื่อยๆจนมาถึงโกดังแห่งหนึ่ง
คนนำบอกว่าที่นี่เป็นที่ทำงานอาจารย์ และอาจารย์กำลังเขียนภาพนี้อยู่ยังไม่เสร็จ
ผมชะโงกหัวเข้าไปในอาคารขนาดสูงสี่ชั้น ด้วยความอยากรู้ว่าที่ทำงานเป็นยังไง
ผมมองไม่เห็นโต๊ะหรือเก้าอี้ มีเพียงแค่นั่งร้านสูงสามชั้นและผ้าใบผืนมหึมา
ด้วยสายตาที่เซ่อของผมจึงไม่เห็นอะไรในระยะใกล้ จวบจนถอยห่างออกมาผมจึงเห็น
ภาพร่างมนุษย์หัวนกกับสายตาที่เกรี้ยวกราดเหมือนจะกล่าวโทษผม
เรือนร่างอันเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่ดุดันราวกับจะฉีกกระชากร่างของคนดู
มนุษย์นกขนาดยักษ์ที่อยู่ต่อหน้าผมบังคับให้ผมต้องแหงนหน้าขึ้นมองเพื่อให้เห็นเป็นบุญตา
ผมตะลึงไปกับความสามารถในการเขียนภาพในระยะใกล้ของอาจารย์ และนาทีนั้นชื่ออาจารย์ถวัลย์ก็ถูกบรรจุลงในหน่วยความจำของผม

ขณะที่กำลังตะลึงไม่หายกับความอัศจรรย์ของภาพเขียนของอาจารย์
พี่คนนำชมก็เดินเข้ามาพร้อมแท่งไม้เล็กๆที่ปลายมีด้ายพันกับแท่งถ่านก้อนจิ๋วอยู่ก้อนหนึ่ง
และถึงได้รับการบอกเล่าว่า นี่คือสิ่งที่อาจารย์ใช้เขียนงา
เศษเถ้าถ่าน สร้างงานสวรรค์

No comments:

Post a Comment