Monday, July 29, 2013

Poker face

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมือง Antioch รัฐ California เวลาประมาณตีสอง
ผมอยู่ที่บ้านเพื่อนในห้องที่แสนอบอุ่นนอกเมือง
เรานั่งดื่ม คุย และเล่นหยอกล้อกันสนุกสนาน แน่นอนว่าเวลาที่คุณมีความสุข เวลามักจะไหลไปอย่างไม่รู้ตัว รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านมาแล้วหลายชั่วโมง และคืนนี้ผมดื่มมากไปละ
เพื่อนผมมีนิสัยการนอนที่แปลก ผมจึงต้องกลับเร็วกว่าปกติทั้งที่ยังมึนๆอยู่ ผมรู้สึกเกรงใจกว่าที่จะขอพักสักครู่ให้หายมึน และคิดว่าเขาเองอาจจะเอาแต่ใจไปหน่อยหรืออาจจะเมาจนไม่ทันสังเกตว่าผมเองก็มึนอยู่เช่นกัน
แต่ช่างเถอะ บางครั้งไอ้เรื่องลำบากเล็กๆน้อยๆแบบนี้ มักจะทำให้คุณรู้สึกดีกับเรื่องอื่นๆไม่ใช่รึ ผมคิดว่าถ้าพักสักชั่วโมงผมน่าจะหายมึนพอที่จะขับรถกลับบ้านได้
เวลาสนุกที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนที่ผมกำลังดื่มนั้น  กลับเคลื่อนตัวอย่างอ้อยอิ่งตั้งแต่ผมก้าวออกมาจากบ้านเพื่อน  ตรงที่ผมจอดรถนั้นเป็นวงเวียนสำหรับวนรถ ผมอาศัยแสงจากเสาไฟเพียงต้นเดียวที่อยู่กลางวงเวียนคลำทางไปที่รถ หยิบกุญแจออกมา เปิดประตูรถและนั่งที่เบาะหลัง ด้วยความที่มันยังมืดอยู่และผมอยู่ในย่านที่ไม่ค่อยคุ้น ผมเลยเอาหนังสือพิมพ์และเสื้อสเวตเตอร์ที่เบาะหลังมาคลุมตัวผมไว้
ผมรุ้สึกไม่ค่อยปลอดภัย เลยจะคลุมตัวไว้ไม่ใครเห็นว่าเป็นไอ้หนุ่มคนหนึ่งที่นั่งมึนๆอยู่ในรถเพื่อสร่างเมา
ผมนอนไม่หลับ จะว่าไปไอ้การที่ต้องนอนอยู่ที่เบาะหลังเน่าๆแข็งๆในความมืดมันก็ไม่ชวนให้หลับอยู่แล้ว ยิ่งนั่งผมก็ยิ่งฟุ้งซ่านคิดไปต่างๆนาๆว่า ถ้ามีตำรวจขับผ่านมาผมจะตอบว่าอย่างไรดี หรือถ้ามีคนเมาขับรถมาชนล่ะ แล้วถ้า...
เดี๋ยวนะ...
ผมได้ยินเสียงฝีเท้าไกลๆจากข้างหน้าผม เสียงนั้นกำลังใกล้เข้ามา ใกล้ขนาดที่ผมสามารถได้ยินเสียงก้อนกรวดที่โดนเหยียบค่อยๆชัดขึ้นๆ เสียงนั้นใกล้เข้ามาและหยุดเป็นช่วงๆ
ผม สงสัยว่าทำไมเสียงฝีเท้าจึงดังๆหยุดๆเป็นช่วงๆ จนคิดขึ้นมาได้ว่าอาจจะเป็นใครสักคนวางแผนที่จะขโมยรถอยู่แน่ๆ เสียงที่หยุดนั้นอาจเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะสำรวจดูรถอยุ่ก็เป็นได้ ผมจำไม่ได้ว่ามีรถที่จอดอยู่กี่คันแต่ผมนับได้แค่สามตอนที่เขามายืนอยู่ข้าง หน้าต่างรถผม
ผมตัวแข็งฉับพลัน
ระยะห่างระหว่างเขาและผมนั้นไม่น่าจะเกินช่วงเอื้อมมือ มีเพียงรถเท่านั้นที่กั้นผมและเขาไว้ ผมนอนหลบอยู่ที่เบาะหลังใต้กองหนังสือพิมพ์และเสื้อสเวตเตอร์พยายามทำตัวให้ไม่เป็นที่สังเกต ไม่ขยับเหมือนเป็นสิ่งไม่มีชีวิต
ฉัน เห็น นะ
มันเป็นเสียงของชายวัยกลางคนอายุราวๆ 40 ที่พยายามบีบเสียงให้เหมือนเด็ก
ความรู้สึกเหมือนตอนคุณเล่นซ่อนหากับเพื่อน แล้วเพื่อนพยายามหลอกให้คุณออกมาจากที่ซ่อน นั่นเป็นน้ำสียงที่เขากำลังทำอยู่ หลอกผมให้ออกมาติดกับ เพื่อที่จะดูว่าไอ้ที่อยุ่ในรถน่ะมันคนหรือว่าแค่กองหนังสือพิมพ์
ผมไม่กล้าที่จะขยับตัวหรือแม้แต่จะแอบมองที่กระจก ผมนอนนิ่งทำตัวเป็นก้อนอะไรสักก้อนหนึ่ง
ร่างกายผมเริ่มตอบสนองโดยหายใจช้าลงจนผมแทบจะไม่รู้สึกอะไร ตาผมจ้องไปแค่ที่เบาะตรงหน้าไม่กล้าที่จะมองไปที่อื่น ไม่แม้แต่ขยับหรือกระพริบตา ร่างกายผมสั่นตุบๆตามจังหวะการเต้นของหัวใจ
เขาเดินวนรอบรถ หูผมไม่ได้ฝาด ผมได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ ผมแทบจะรู้สึกได้ว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของรถ ผมรู้สึกว่าเขากำลังจับกระโปรงรถและลองกดดูเพื่อทดสอบว่ามีสัญญาณกันขโมยหรือไม่ หรือไม่ก็กำลังทดสอบผม
ขณะที่ผมกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะสู้หรือจะหนีดี จะทำวิธีไหนให้เสี่ยงน้อยที่สุดและหวังว่าเขาน่าจะไม่เห็นผมหรอกแค่ขู่ดูเท่านั้น
เขาเริ่มเดินวนรอบรถอีกครั้ง คราวนี้ที่เปิดประตูรถด้านขวาของผมกระตุก เขากำลังดึงมันอยู่
ฉัน เห็นนนนนนน แกกกกกก นะ
น้ำเสียงแบบเดิม แต่หนักกว่าเดิม เหมือนเขาเชื่อว่าจะทำให้ไอ้ที่อยู่ใต้กองหนังสือพิมพ์ขยับและเห็นผม
ร่างกายผมเกร็งราวกับวัวที่รอโดนเชือด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเหมือนโลหะสัมผัสกับกระจก ถ้าคุณเอาเหรียญมาเคาะกับกระจกล่ะก็ นั่นละ เสียงนั้นเลย
เหล็ก ชาร์ป มีด หิน หรือปืนนะ ตาผมยังจับอยู่ที่เบาะข้างหน้าไม่แม้แต่จะเหลือบมอง ผมคลุมตัวมิดชิดขนาดที่ผมไม่สามารถเห็นอะไรรอบตัวได้นอกจากเบาะที่อยู่ตรง หน้าเท่านั้น ผมรู้ว่าผมไม่เห็นเขา แต่รู้สึกได้ว่าสายตาของเขากำลังจับผมอยู่
“ ฉันชื่อโป๊กเกอร์เฟซ นะ แล้วแกล่ะ ชื่ออะไร “
คราวนี้น้ำเสียงเปลี่ยนไป เป็นโทนต่ำและจริงจังขึ้น ผมนึกภาพว่าเจ้าของเสียงนั้นต้องไม่ใช่คน
ผมพร้อมที่จะตายแล้ว จะโดนยิงที่หัว หรือถูกแทงจนพรุน อะไรก็ได้แค่ทำให้ผมไม่ต้องทรมานมากก็พอ
ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง สติเริ่มเลือนราง ผมนึกภาพว่าเพื่อนผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าเพื่อที่จะเจอร่างของผมที่โชกเลือดห้อยอยู่บนประตูรถ
ตอนนั้นเองที่ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากเสียงเต้นของหัวใจผมเอง ตอนนี้ไอ้นั่นมันกำลังทำอะไรอยู่นะ ยังจ้องผมอยู๋รึเปล่า
เวลาแทบจะหยุดนิ่ง เสียงฝีเท้าค่อยๆเลือนหายไป ขอบคุณพระเจ้าที่เขาไปเสียที ผมรออยู่ชั่วโมงนึงจนแสงอาทิตย์เริ่มเรือง จากนั้นจึงรีบขับรถกลับบ้านทั้งที่ตายังค้างและยังไม่สร่างดี

* แปลจาก reddit โดย user awriternamedwilliams
** http://www.reddit.com/r/LetsNotMeet/comments/1j598q/poker_face/


Saturday, July 27, 2013

วินมอเตอร์ไซค์

แถวบ้านผมมีวินมอเตอร์ไซค์
ซึ่งกิจกรรมหลักของวินนี้ไม่ใช่การส่งวิน
แต่เป็นการทอยฝาเบียร์ ง่ายๆคือเหมือนเปตองแต่ใช้ฝาเบียร์แทน
วิธีการเล่นคือแข่งกันโยนว่าใครใกล้ที่หมายมากกว่ากัน โดยกำหนดให้ร่องถนนเป็นเส้นชัย
ในแต่ละรอบจะมีทั้งวินมอไซค์กับชาวบ้านแถวนั้นร่วมเล่น
สนนราคาคนละ10บาท ใครชนะเหมาหมด ง่ายๆคือตานึงถ้ามือแม่นๆได้ทีละ4-50 บาทเลยทีเดียว
กิจกรรมนี้ได้รับความนิยมมาก ดึกดื่น3-4ทุ่มจะมีเสียงเฮให้ได้ยินเป็นระยะ
นอกจากนี้ช่วงเวลาไหนคนน้อย จะสามารถพบเห็นวินมอไซค์บรรจงซ้อมทอยฝาเบียร์คนเดียวอีกด้วย
ความสุขนี่มันหาได้รอบตัวจริงๆ

Wednesday, July 10, 2013

อิสระที่คุณเลือกได้

บนถนนพระรามเก้าในยามค่ำที่ฝนกำลังตกพรำๆ การจราจรที่หนาแน่นทำให้รถพอเคลื่อนตัวได้เป็นระยะๆ ขณะที่รถกำลังติดอยู่นั้น ข้างหน้าผมมีชายฉกรรจ์คนหนึ่งลงมาจากรถบรรทุกขนคนงานที่อยู่เลนตรงข้าม ชายคนนั้นเดินไปที่กรวยสองสามอันที่คาดว่าตำรวจจราจรน่าจะเอามาวางไว้ เพราะมักจะมีรถจากเลนนั้นลักไก่แอบเลี้ยวกลับรถเป็นประจำ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ชายฉกรรจ์เดินไปหยิบกรวยสองสามอันนั้นออก ก่อนที่จะเดินกลับขึ้นรถแล้วเลี้ยวยูเทิร์นออกมาอีกฝั่งอย่างสบายใจ
ขณะที่ผมยังนั่งอึ้งกับสิ่งที่ชายคนนั้นทำ พลันเสียงในหัวก็แว่วขึ้นมาว่า
แหกกฏเกณฑ์อันซ้ำซากจำเจ สร้างทางเลือกใหม่ในแบบของคุณ และนี่คืออิสระที่คุณเลือกได้
เจริญ...
ปล. แน่นอนว่าหลังจากนั้นเมื่อมีผู้กล้าคนแรกแหกไป ก็มีผู้กล้าตามแหกกันมาเป็นพรวน

Monday, July 8, 2013

งาน

นี่เป็นงานที่ทำอยู่ช่วงนี้
ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรนอกจากฟรีแลนซ์
จะทำฟรีแลนซ์ต่อหรือทำงานประจำดีนะ
อืมม


Bookcat