บางคนย้ายครั้งเดียว บางคนย้าย 2-3 ครั้ง และอย่าเพิ่งแปลกใจว่าทำไมย้ายบ้านกันบ่อย เพราะมันเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่ (ุ่ถ้าไม่ได้ซื้อบ้านนะ) ยกตัวอย่างเช่น
ได้งานใหม่ไกลจากบ้านเดิม ก็ย้าย
เปลี่ยนโรงเรียนที่เรียนอยู่ ก็ย้าย
บ้านเริ่มเก่าแล้ว ก็ย้าย
เงินเริ่มร่อยหรอไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็ย้าย
ได้แฟนใหม่ ก็ย้าย
จะเห็นได้ว่าคนที่นี่ย้ายกันเป็นว่าเล่น ซึ่งดูๆไปก็สนุกดี ทีนี้ด้วยธรรมชาติที่การย้ายบ้านเป็นเรื่องปกติ จึงมีธุรกิจบริการตัวหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมมากคือบริการย้ายบ้าน แน่นอนว่าการจ้างบริษัทมืออาชีพมาช่วยในการย้ายบ้านมันต้องสะดวกสบายมาก คุณแค่จัดการแพ๊คของใส่กล่องที่ทางบริษัทเตรียมมาให้ซะแล้วจดว่ามีอะไรบ้างจากนั้นก็รอพนักงานย้ายบ้านมายกของๆคุณไป แต่ความสบายเช่นนี้ก็ต้องแลกมากับค่าบริการที่แพงหูฉี่เลยทีเดียว
แล้วถ้าเราไม่อยากจะจ่ายเงินขนาดนั้นล่ะ เราจะทำยังไงดี
คำตอบคือ ก็ย้ายด้วยตัวเองนี่แหละ
ที่อเมริกามีบริการรถขนของให้เช่า เจ้าดังๆก็เช่น U-Haul, Budget (แต่คนจะนิยม U-Haul มากกว่า) โดยมีหลายขนาดไล่ไปตั้งแต่ รถกระบะ รถตู้ รถตู้ขนาดใหญ่ รถเทรลเลอร์ และตู้ใส่ของสำหรับลาก
ศูนย์บริการ U-Haul เองก็กระจายกันไปตามย่านต่างๆ
การใช้บริการก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่คุณมีใบขับขี่และบัตรเครดิต(เดบิตก็ใช้ได้นะ) จากนั้นทำการจองผ่านระบบออนไลน์หรือจะไปที่ศูนย์เลยก็ได้(แต่จะไปทำไม) ตอนจองก็จะมีให้เลือกว่าสะดวกที่จะไปรับรถที่ไหนและศูนย์ไหนมีรถอะไรว่างให้เช่าบ้าง (รถแต่ละศูนย์ไม่เท่ากันขึ้นกับขนาดความใหญ่ของศูนย์แต่ล่ะที่) เมื่อเลือกได้ว่าจะไปรับรถที่ศูนย์ที่สะดวกแล้วก็จัดการจองวันและเวลาซะ ซึงถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำว่าให้ย้ายของตอนช่วงเช้าให้เสร็จเลยจะดีกว่า เพราะทาง U-Haul คิดราคาเป็นชั่วโมงและหากจอดค้างคืนยังเสี่ยงต่อรถและของหายอีก เมื่อวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงทำการจ่ายเงินออนไลน์ซึ่งถ้าเขาถามว่าเอาประกันเพิ่มไหม ก็จ่ายไปเหอะครับกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่งั้นถ้ามีปัญหาตอนหลังนี่กระเป๋าฉีกแน่
พอถึงวันนัดถ้าคุณมีรถยนต์ส่วนตัว(ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ สามารถเดินไปได้แต่เหนื่อยหน่อยเก็บแรงไว้ขนของจะดีกว่า) คุณก็พาคนนั่งรถไปที่ศูนย์กับคุณซะ จะได้ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ศูนย์เปล่าๆ เอามาช่วยกันขนของดีกว่า
เมื่อถึงวันนัดก็ไปที่ศูนย์ U-Haul ให้ตรงเวลานะ ไปสายมากๆรถอาจจะโดนปล่อยเช่าไปแล้วก็ได้ โดยในศูนย์เองมีขายพวกอุปกรณ์ย้ายบ้านต่างๆ ทั้งกล่อง เทปกาว พลาสติกห่อฟูก รถเข็นและอื่นๆสุดแท้แต่ว่าจะย้ายบ้านยังไง จากนั้นก็เดินเข้าไปคุยกับพนักงานเขาจะตรวจสอบการจอง ซึ่งเราควรปริ้นท์ข้อมูลการจองออกมาให้เรียบร้อยเพื่อความรวดเร็ว พอพนักงานตรวจเสร็จเขาก็จะบอกเบอร์รถแล้วให้เราไปรอข้างนอกจะมีพนักงานขับรถมาให้ พอได้รถ U-Haul มาอย่าเพิ่งดีใจรีบขับออกไป ทางนั้นจะให้เราเช็กสภาพรถเสียก่อน ก็เดินวนดูรอบๆรถว่ามันมีรอยอะไรตรงไหนบ้าง มีตรงไหนบุบอยู่แล้วมั้ย ซึ่งมีแน่นอน รถส่วนมากมีทั้งรอยบุบ รอยถลอก เยินพอควร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบระบุรายละเอียดลงไปให้ครบถ้วน โดยเดินแล้วชี้ๆให้พนักงานเป็นคนบันทึกไว้ เมื่อตรวจรอบรถเสร็จเรียบร้อยพนักงานก็จะเปิดเข้าไปข้างในรถ เช็กเกจน้ำมันว่าเหลือเท่าไหร่ซึ่งเวลาคืนเราต้องเติมกลับมาให้เหมือนเดิมนะ เพราะไม่งั้นจะโดนปรับค่าน้ำมันอีก เมื่อเช็กสภาพภายในเรียบร้อยพนักงานก็จะส่งเอกสารให้เรา เราก็ต้องเก็บเอกสารนี้ไว้ให้ดี เพราะจะต้องใช้อีกตอนเอารถไปคืนซึ่งต้องคืนตามที่ระบุไว้นะ จะเป็นที่เดิมหรือที่ไหนก็ตามแต่เราระบุไว้แต่แรก
เอาล่ะ เท่านี้เราก็พร้อมจะขนของแล้ว
พร้อมกันรึยัง!
ผมถามคนที่คุณเอามาช่วยน่ะ ว่าพร้อมกันรึยัง(ที่จะมาช่วยไอ้นี่ย้ายบ้าน)
โดยส่วนมากคนที่มาช่วยก็คือเพื่อนๆคุณที่ไปชวน(หรือหลอกล่อว่าจะเลี้ยงข้าวไม่ก็ทวงบุญคุณ)กันนั่นแหละ อย่างตอนที่ผมย้ายเข้าเมืองก็ได้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆเนี่ยแหละช่วยกัน(ขอบคุณพี่น้องชาวอนิเมชั่นและไม่อนิเมชั่นทุกคนอีกรอบ) ในจุดนี้คนที่เพื่อนน้อยหรือเพื่อนไม่อยากตื่นมาเหนื่อยแต่เช้าอาจจะลำบากหน่อย แถมการขนคนเดียวโดยไม่มีคนเฝ้าของเนี่ยเสียงต่อการที่ของจะหายมาก ซึงจากประสบการณ์ช่วยคนย้ายบ้านที่ผ่านมาหลายๆครั้ง ผมสรุปได้ว่าคุณควรจะเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งหมดอย่างน้อย 4 คน โดยมี 1 คนเฝ้ารถ 1 คนบนบ้าน 2 คนขนของ แล้วให้ไอ้คนบนรถมันจัดของซะ วิธีนี้อาจจะใช้ได้ดีกับคนที่ของไม่เยอะแต่แรงเยอะ แล้วถ้าไม่มีคนสับเปลี่ยนเลยแล้วขนจนหมดแรงแล้วจะทำไงดีล่ะ
ถ้าคุณคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นคุณยังมีทางเลือกอีกทาง(กรณีไม่มีเพื่อนมาช่วยเลยก็ใช้ได้นะ) โดยให้ทำทุกอย่างเหมือนเดิมเก็บเพื่อน 4 คนนี้ไว้(ถ้ามี) เซฟซะ แล้วโหลดเซฟใหม่ตอนที่ก่อนคุณจะเดินเข้าไปเอารถที่ศูนย์ U-Haul เมื่อไปถึงหน้าบริเวณศูนย์แล้ว คุณจะเห็น NPC ชาวเม็กซิกันเดินกันไปมา บางคนอาจเดินเข้ามาหาคุณซึ่งสคริปไม่มีอะไรมากไปกว่า "Need help?" "You're moving?" "30 per Hour" ตัวละคร NPC จะเดินวนไปมาอยู่เรื่อยๆ โดยคุณไม่ต้องรีบร้อนให้เล็งไว้ก่อนว่าจะชวน NPC คนไหนเข้าปาร์ตี้ เวลาเลือกพยายามเลือกคนที่ดูโหงวเฮ้งแล้วน่าไว้ใจว่าจะไม่มาปล้นเราได้เสียหน่อย แล้วไปจัดการเดินเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นพอได้รถมาคุณก็จัดการชวน NPC ที่ภายหลังจะมาเป็นเพื่อนในปาร์ตี้คุณซะ ซึ่งขั้นตอนนีต้องมีการเสียเงินซื้อเพื่อนเสียหน่อย เมื่อตกลงราคาเรียบร้อยคุณก็ขนเพื่อนใหม่มาเจอกับเพื่อน 4 คนในปาร์ตี้เดิมก่อนชุบพลังให้เต็มทุกคน แล้วเริ่มลงลุยดันเจี้ยน... ไม่ใช่ละ ย้ายบ้านเซ่!
เอาล่ะ เมื่อรถพร้อม คนพร้อมเราก็มาเริ่มขนของกัน สิ่งสำคัญอันดับแรกในการย้ายบ้านคือการแพ๊คของ ซึ่งในฐานะเจ้าบ้าน คุณควรจะจัดการขั้นตอนนี้ให้เสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเพื่อนฝูงมาจะได้ทำการย้ายได้ทันที ลองนึกสภาพดูว่า คุณนัดเพื่อนๆคุณแต่เช้า และเพื่อนๆผู้แสนดีของคุณฝ่าความง่วงมาแต่เช้า เพื่อมาดูคุณหยิบหนังสือลงกล่องทีละเล่ม หรือนั่งย้อนระลึกความหลังกับกระเป๋าใบโปรดที่ละใบ คุณคิดว่าเพื่อนคุณจะมองคุณยังไง ดังนั้นจัดการแพ๊คของให้เรียบร้อยซะ และเคลียร์พื้นที่วางของแต่ละกล่องให้หยิบง่ายๆ มีทริกนิดนึงว่ากล่องใหญ่ๆไม่ดีเสมอไปกล่องกลางๆเนี่ยล่ะยกง่ายที่สุดแล้ว และให้เน้นที่น้ำหนักมากกว่าปริมาณ ของบางอย่างเช่นเสื้อผ้ายัดใส่กล่องใหญ่ได้ไม่มีปัญหาเพราะน้ำหนักไม่เบา ส่วนของหนักๆเช่นหนังสือนี่ แยกใส่กล่องเล็กหลายๆกล่องเถอะเพื่อสุขภาพหลังของคุณในอนาคต ทีนี้จะรู้ได้ไงว่าของมันหนักเกินไปไหม วิธีง่ายๆคือลองยกเอง ถ้าคุณเองยังยกไม่ไหวอย่าไปคาดหวังว่าคนอื่นจะยกไหว นอกจากพวกของชิ้นใหญ่ๆเช่น ทีวี เตียง ตู้ ที่ต้องค่อยๆช่วยกันยก ผมเคยเจอคนย้ายของหนักสุดคือเครื่องซักผ้า แถมต้องขนลงบันไดจากชั้นสองที่ทั้งเล็กและแคบ ตอนนั้นผมไปช่วย ทิม อาร์ทไดเรกเตอร์ที่จะย้ายกลับบ้านเกิด ทิมชอบเตะฟุตบอลจึงมีเพื่อนร่วมก๊วนมาช่วยกันยก เพื่อนๆก็ช่วยกันขนจนหมดเหลือเจ้าเครื่องซํกผ้าอันเดียวเนี่ยล่ะ ระหว่างที่คนจับกลุ่มวางแผนกันว่าจะขนลงไปยังไงดี จะแบ่งคนรับด้านหน้าแล้วอีกส่วนยกด้านหลังแล้วค่อยๆขนลงไปหรือจะเอาฟูกวางแล้วไถลเครื่องซักผ้าลงไปเลยดี เพื่อนทิมที่เป็นชาวเม็กซิกันร่างตันก็หยิบเครื่องซักผ้าใส่รถเข็นซะ แล้วก็เข็นลงมาเลยรวดเดียวแถมคนเดียวด้วย เห็นพลังของพี่เม็กซิกันรึยัง
วิธีขนของให้เสร็จเร็วและเหนื่อยน้อยที่สุด ผมคิดว่าน่าจะใช้วิธีเดียวกับการดับไฟ ลองนึกภาพว่าถ้าเกิดมีไฟไหม้ที่นึงแล้วบ่อน้ำอยู่ห่างไป 50 เมตร ถ้ามีคน 20 คนแล้วแต่ละคนวิ่งหยิบถังไปตักน้ำในบ่อแล้ววิ่งไปสาดใส่ไฟแล้ววิ่งกลับไปตักที่บ่ออีกรอบและอีกหลายๆรอบเนี่ย ทำได้พักเดียวหมดแรงแน่นอนแถมน้ำอาจหกระหว่างทางอีก แต่ถ้าเรายืนต่อๆกันแล้วค่อยๆส่งถังน้ำจากบ่อไปถึงจุดที่ไฟไหม้ละ เหนื่อยน้อยกว่าแน่นอนและดับไฟได้มีประสิทธิภาพกว่าด้วย ดังนั้นเวลาขนของคุณก็จัดการแบ่งคนตามวิธีที่บอกไว้ข้างต้น และถ้ามีกำลังเสริม(เพื่อนเยอะ) คุณสามารถแบ่งเพื่อนส่วนหนึ่งให้ไปรอที่บ้านจุดหมาย(บ้านใหม่) ได้เลย วิธีนี้นอกจากทำให้เพื่อนเหนื่อยน้อยลงมีเวลาพักแล้วยังประหยัดเวลาอีกด้วย คุณไม่ต้องเสียเวลารอเพื่อนที่จะตามไปที่บ้านใหม่ เพราะหากคุณไม่มีรถขนเพื่อน เพื่อนอาจจะตามมาด้วยรถโดยสารสาธารณะต่างๆซึ่งอาจกินเวลาเข้าไปอีก และไอ้ความคิดที่ว่าก็ไม่เป็นไรนี่ ไหนๆ U-Haul เป็นรถบรรทุกที่เยอะก็ยัดๆกันเข้าไปข้างในได้นี่อาจเบียดกับเฟอร์นิเจอร์หน่อยแต่ไม่เป็นไรมั้ง ถ้าระยะทางใกล้มากๆก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าระยะทางไกลหน่อยนี่ไม่เหมาะอย่างร้ายกาจ เพราะข้างในนั้นทั้งมืดและโคลงเคลง เพื่อนคุณจะเมารถและหมดแรงขนของก่อนแน่ (ที่รู้เพราะผมเคยเข้าไปนั่งเพราะคิดว่าน่าจะไปได้ ที่ไหนได้ทั้งมืดและเวียนหัว)
เมื่อขนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบเอารถไปคืนซะ วิธีนึงที่ผมคิดว่าเหมาะคือตอนจองตอนแรกเนี่ย ถ้าเราให้เพื่อนที่สนิทพอจะเชื่อว่ามันจะไม่หนีเราไปไหนเป็นคนจองจะดีกว่า เพราะเวลาไปเอารถและคืนรถคุณจะได้รบกวนเพื่อนของคุณเป็นคนดำเนินการ เมื่อขนของเข้าบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยคุณก็ไม่ต้องไปล่กกับการรีบเอารถไปคืน ให้เพื่อนคุณเป็นคนจัดการซะแล้ววันหลังหรือถ้าเย็นนั้นสะดวกก็นัดเลี้ยงข้าวหรืออะไรก็ได้ตามแต่สะดวกเป็นการตอบแทนเพื่อนๆที่มาช่วยขนทั้งหลาย ส่วนคุณก็จัดการเอาของออกจากกล่องและเริ่มจัดบ้านคืนนั้นเลย
Happy moving ครับ
แล้วถ้าเราไม่อยากจะจ่ายเงินขนาดนั้นล่ะ เราจะทำยังไงดี
คำตอบคือ ก็ย้ายด้วยตัวเองนี่แหละ
ที่อเมริกามีบริการรถขนของให้เช่า เจ้าดังๆก็เช่น U-Haul, Budget (แต่คนจะนิยม U-Haul มากกว่า) โดยมีหลายขนาดไล่ไปตั้งแต่ รถกระบะ รถตู้ รถตู้ขนาดใหญ่ รถเทรลเลอร์ และตู้ใส่ของสำหรับลาก
ศูนย์บริการ U-Haul เองก็กระจายกันไปตามย่านต่างๆ
การใช้บริการก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่คุณมีใบขับขี่และบัตรเครดิต(เดบิตก็ใช้ได้นะ) จากนั้นทำการจองผ่านระบบออนไลน์หรือจะไปที่ศูนย์เลยก็ได้(แต่จะไปทำไม) ตอนจองก็จะมีให้เลือกว่าสะดวกที่จะไปรับรถที่ไหนและศูนย์ไหนมีรถอะไรว่างให้เช่าบ้าง (รถแต่ละศูนย์ไม่เท่ากันขึ้นกับขนาดความใหญ่ของศูนย์แต่ล่ะที่) เมื่อเลือกได้ว่าจะไปรับรถที่ศูนย์ที่สะดวกแล้วก็จัดการจองวันและเวลาซะ ซึงถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำว่าให้ย้ายของตอนช่วงเช้าให้เสร็จเลยจะดีกว่า เพราะทาง U-Haul คิดราคาเป็นชั่วโมงและหากจอดค้างคืนยังเสี่ยงต่อรถและของหายอีก เมื่อวางแผนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงทำการจ่ายเงินออนไลน์ซึ่งถ้าเขาถามว่าเอาประกันเพิ่มไหม ก็จ่ายไปเหอะครับกันไว้ดีกว่าแก้ ไม่งั้นถ้ามีปัญหาตอนหลังนี่กระเป๋าฉีกแน่
พอถึงวันนัดถ้าคุณมีรถยนต์ส่วนตัว(ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ สามารถเดินไปได้แต่เหนื่อยหน่อยเก็บแรงไว้ขนของจะดีกว่า) คุณก็พาคนนั่งรถไปที่ศูนย์กับคุณซะ จะได้ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่ศูนย์เปล่าๆ เอามาช่วยกันขนของดีกว่า
เมื่อถึงวันนัดก็ไปที่ศูนย์ U-Haul ให้ตรงเวลานะ ไปสายมากๆรถอาจจะโดนปล่อยเช่าไปแล้วก็ได้ โดยในศูนย์เองมีขายพวกอุปกรณ์ย้ายบ้านต่างๆ ทั้งกล่อง เทปกาว พลาสติกห่อฟูก รถเข็นและอื่นๆสุดแท้แต่ว่าจะย้ายบ้านยังไง จากนั้นก็เดินเข้าไปคุยกับพนักงานเขาจะตรวจสอบการจอง ซึ่งเราควรปริ้นท์ข้อมูลการจองออกมาให้เรียบร้อยเพื่อความรวดเร็ว พอพนักงานตรวจเสร็จเขาก็จะบอกเบอร์รถแล้วให้เราไปรอข้างนอกจะมีพนักงานขับรถมาให้ พอได้รถ U-Haul มาอย่าเพิ่งดีใจรีบขับออกไป ทางนั้นจะให้เราเช็กสภาพรถเสียก่อน ก็เดินวนดูรอบๆรถว่ามันมีรอยอะไรตรงไหนบ้าง มีตรงไหนบุบอยู่แล้วมั้ย ซึ่งมีแน่นอน รถส่วนมากมีทั้งรอยบุบ รอยถลอก เยินพอควร ดังนั้นเพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบระบุรายละเอียดลงไปให้ครบถ้วน โดยเดินแล้วชี้ๆให้พนักงานเป็นคนบันทึกไว้ เมื่อตรวจรอบรถเสร็จเรียบร้อยพนักงานก็จะเปิดเข้าไปข้างในรถ เช็กเกจน้ำมันว่าเหลือเท่าไหร่ซึ่งเวลาคืนเราต้องเติมกลับมาให้เหมือนเดิมนะ เพราะไม่งั้นจะโดนปรับค่าน้ำมันอีก เมื่อเช็กสภาพภายในเรียบร้อยพนักงานก็จะส่งเอกสารให้เรา เราก็ต้องเก็บเอกสารนี้ไว้ให้ดี เพราะจะต้องใช้อีกตอนเอารถไปคืนซึ่งต้องคืนตามที่ระบุไว้นะ จะเป็นที่เดิมหรือที่ไหนก็ตามแต่เราระบุไว้แต่แรก
เอาล่ะ เท่านี้เราก็พร้อมจะขนของแล้ว
พร้อมกันรึยัง!
ผมถามคนที่คุณเอามาช่วยน่ะ ว่าพร้อมกันรึยัง(ที่จะมาช่วยไอ้นี่ย้ายบ้าน)
โดยส่วนมากคนที่มาช่วยก็คือเพื่อนๆคุณที่ไปชวน(หรือหลอกล่อว่าจะเลี้ยงข้าวไม่ก็ทวงบุญคุณ)กันนั่นแหละ อย่างตอนที่ผมย้ายเข้าเมืองก็ได้พี่ๆน้องๆเพื่อนๆเนี่ยแหละช่วยกัน(ขอบคุณพี่น้องชาวอนิเมชั่นและไม่อนิเมชั่นทุกคนอีกรอบ) ในจุดนี้คนที่เพื่อนน้อยหรือเพื่อนไม่อยากตื่นมาเหนื่อยแต่เช้าอาจจะลำบากหน่อย แถมการขนคนเดียวโดยไม่มีคนเฝ้าของเนี่ยเสียงต่อการที่ของจะหายมาก ซึงจากประสบการณ์ช่วยคนย้ายบ้านที่ผ่านมาหลายๆครั้ง ผมสรุปได้ว่าคุณควรจะเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งหมดอย่างน้อย 4 คน โดยมี 1 คนเฝ้ารถ 1 คนบนบ้าน 2 คนขนของ แล้วให้ไอ้คนบนรถมันจัดของซะ วิธีนี้อาจจะใช้ได้ดีกับคนที่ของไม่เยอะแต่แรงเยอะ แล้วถ้าไม่มีคนสับเปลี่ยนเลยแล้วขนจนหมดแรงแล้วจะทำไงดีล่ะ
ถ้าคุณคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นคุณยังมีทางเลือกอีกทาง(กรณีไม่มีเพื่อนมาช่วยเลยก็ใช้ได้นะ) โดยให้ทำทุกอย่างเหมือนเดิมเก็บเพื่อน 4 คนนี้ไว้(ถ้ามี) เซฟซะ แล้วโหลดเซฟใหม่ตอนที่ก่อนคุณจะเดินเข้าไปเอารถที่ศูนย์ U-Haul เมื่อไปถึงหน้าบริเวณศูนย์แล้ว คุณจะเห็น NPC ชาวเม็กซิกันเดินกันไปมา บางคนอาจเดินเข้ามาหาคุณซึ่งสคริปไม่มีอะไรมากไปกว่า "Need help?" "You're moving?" "30 per Hour" ตัวละคร NPC จะเดินวนไปมาอยู่เรื่อยๆ โดยคุณไม่ต้องรีบร้อนให้เล็งไว้ก่อนว่าจะชวน NPC คนไหนเข้าปาร์ตี้ เวลาเลือกพยายามเลือกคนที่ดูโหงวเฮ้งแล้วน่าไว้ใจว่าจะไม่มาปล้นเราได้เสียหน่อย แล้วไปจัดการเดินเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย จากนั้นพอได้รถมาคุณก็จัดการชวน NPC ที่ภายหลังจะมาเป็นเพื่อนในปาร์ตี้คุณซะ ซึ่งขั้นตอนนีต้องมีการเสียเงินซื้อเพื่อนเสียหน่อย เมื่อตกลงราคาเรียบร้อยคุณก็ขนเพื่อนใหม่มาเจอกับเพื่อน 4 คนในปาร์ตี้เดิมก่อนชุบพลังให้เต็มทุกคน แล้วเริ่มลงลุยดันเจี้ยน... ไม่ใช่ละ ย้ายบ้านเซ่!
เอาล่ะ เมื่อรถพร้อม คนพร้อมเราก็มาเริ่มขนของกัน สิ่งสำคัญอันดับแรกในการย้ายบ้านคือการแพ๊คของ ซึ่งในฐานะเจ้าบ้าน คุณควรจะจัดการขั้นตอนนี้ให้เสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว พอเพื่อนฝูงมาจะได้ทำการย้ายได้ทันที ลองนึกสภาพดูว่า คุณนัดเพื่อนๆคุณแต่เช้า และเพื่อนๆผู้แสนดีของคุณฝ่าความง่วงมาแต่เช้า เพื่อมาดูคุณหยิบหนังสือลงกล่องทีละเล่ม หรือนั่งย้อนระลึกความหลังกับกระเป๋าใบโปรดที่ละใบ คุณคิดว่าเพื่อนคุณจะมองคุณยังไง ดังนั้นจัดการแพ๊คของให้เรียบร้อยซะ และเคลียร์พื้นที่วางของแต่ละกล่องให้หยิบง่ายๆ มีทริกนิดนึงว่ากล่องใหญ่ๆไม่ดีเสมอไปกล่องกลางๆเนี่ยล่ะยกง่ายที่สุดแล้ว และให้เน้นที่น้ำหนักมากกว่าปริมาณ ของบางอย่างเช่นเสื้อผ้ายัดใส่กล่องใหญ่ได้ไม่มีปัญหาเพราะน้ำหนักไม่เบา ส่วนของหนักๆเช่นหนังสือนี่ แยกใส่กล่องเล็กหลายๆกล่องเถอะเพื่อสุขภาพหลังของคุณในอนาคต ทีนี้จะรู้ได้ไงว่าของมันหนักเกินไปไหม วิธีง่ายๆคือลองยกเอง ถ้าคุณเองยังยกไม่ไหวอย่าไปคาดหวังว่าคนอื่นจะยกไหว นอกจากพวกของชิ้นใหญ่ๆเช่น ทีวี เตียง ตู้ ที่ต้องค่อยๆช่วยกันยก ผมเคยเจอคนย้ายของหนักสุดคือเครื่องซักผ้า แถมต้องขนลงบันไดจากชั้นสองที่ทั้งเล็กและแคบ ตอนนั้นผมไปช่วย ทิม อาร์ทไดเรกเตอร์ที่จะย้ายกลับบ้านเกิด ทิมชอบเตะฟุตบอลจึงมีเพื่อนร่วมก๊วนมาช่วยกันยก เพื่อนๆก็ช่วยกันขนจนหมดเหลือเจ้าเครื่องซํกผ้าอันเดียวเนี่ยล่ะ ระหว่างที่คนจับกลุ่มวางแผนกันว่าจะขนลงไปยังไงดี จะแบ่งคนรับด้านหน้าแล้วอีกส่วนยกด้านหลังแล้วค่อยๆขนลงไปหรือจะเอาฟูกวางแล้วไถลเครื่องซักผ้าลงไปเลยดี เพื่อนทิมที่เป็นชาวเม็กซิกันร่างตันก็หยิบเครื่องซักผ้าใส่รถเข็นซะ แล้วก็เข็นลงมาเลยรวดเดียวแถมคนเดียวด้วย เห็นพลังของพี่เม็กซิกันรึยัง
วิธีขนของให้เสร็จเร็วและเหนื่อยน้อยที่สุด ผมคิดว่าน่าจะใช้วิธีเดียวกับการดับไฟ ลองนึกภาพว่าถ้าเกิดมีไฟไหม้ที่นึงแล้วบ่อน้ำอยู่ห่างไป 50 เมตร ถ้ามีคน 20 คนแล้วแต่ละคนวิ่งหยิบถังไปตักน้ำในบ่อแล้ววิ่งไปสาดใส่ไฟแล้ววิ่งกลับไปตักที่บ่ออีกรอบและอีกหลายๆรอบเนี่ย ทำได้พักเดียวหมดแรงแน่นอนแถมน้ำอาจหกระหว่างทางอีก แต่ถ้าเรายืนต่อๆกันแล้วค่อยๆส่งถังน้ำจากบ่อไปถึงจุดที่ไฟไหม้ละ เหนื่อยน้อยกว่าแน่นอนและดับไฟได้มีประสิทธิภาพกว่าด้วย ดังนั้นเวลาขนของคุณก็จัดการแบ่งคนตามวิธีที่บอกไว้ข้างต้น และถ้ามีกำลังเสริม(เพื่อนเยอะ) คุณสามารถแบ่งเพื่อนส่วนหนึ่งให้ไปรอที่บ้านจุดหมาย(บ้านใหม่) ได้เลย วิธีนี้นอกจากทำให้เพื่อนเหนื่อยน้อยลงมีเวลาพักแล้วยังประหยัดเวลาอีกด้วย คุณไม่ต้องเสียเวลารอเพื่อนที่จะตามไปที่บ้านใหม่ เพราะหากคุณไม่มีรถขนเพื่อน เพื่อนอาจจะตามมาด้วยรถโดยสารสาธารณะต่างๆซึ่งอาจกินเวลาเข้าไปอีก และไอ้ความคิดที่ว่าก็ไม่เป็นไรนี่ ไหนๆ U-Haul เป็นรถบรรทุกที่เยอะก็ยัดๆกันเข้าไปข้างในได้นี่อาจเบียดกับเฟอร์นิเจอร์หน่อยแต่ไม่เป็นไรมั้ง ถ้าระยะทางใกล้มากๆก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าระยะทางไกลหน่อยนี่ไม่เหมาะอย่างร้ายกาจ เพราะข้างในนั้นทั้งมืดและโคลงเคลง เพื่อนคุณจะเมารถและหมดแรงขนของก่อนแน่ (ที่รู้เพราะผมเคยเข้าไปนั่งเพราะคิดว่าน่าจะไปได้ ที่ไหนได้ทั้งมืดและเวียนหัว)
เมื่อขนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบเอารถไปคืนซะ วิธีนึงที่ผมคิดว่าเหมาะคือตอนจองตอนแรกเนี่ย ถ้าเราให้เพื่อนที่สนิทพอจะเชื่อว่ามันจะไม่หนีเราไปไหนเป็นคนจองจะดีกว่า เพราะเวลาไปเอารถและคืนรถคุณจะได้รบกวนเพื่อนของคุณเป็นคนดำเนินการ เมื่อขนของเข้าบ้านใหม่เสร็จเรียบร้อยคุณก็ไม่ต้องไปล่กกับการรีบเอารถไปคืน ให้เพื่อนคุณเป็นคนจัดการซะแล้ววันหลังหรือถ้าเย็นนั้นสะดวกก็นัดเลี้ยงข้าวหรืออะไรก็ได้ตามแต่สะดวกเป็นการตอบแทนเพื่อนๆที่มาช่วยขนทั้งหลาย ส่วนคุณก็จัดการเอาของออกจากกล่องและเริ่มจัดบ้านคืนนั้นเลย
Happy moving ครับ
Hey, It really is incredibly fantastic and informative website. Good to discover your site Very well article! I’m simply in love with it.เช่ารถตู้พร้อมคนขับ
ReplyDeleteIt become an attractive part of a blog when author uses indirect speech while writing a blog. It shows your creative mind as well as make your written essay different from others.Bangkok airport transfer
ReplyDelete