Saturday, May 31, 2014

Shit happened

ช่วงครึ่งแรกที่ผมอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ผมอาศํยอยู่ในย่านที่เรียกว่า Sunset
ย่านนี้เป็นย่านที่อยู่อาศํยเป็นหลัก มีโรงเรียน ร้านรวงและซุปเปอร์มาเก็ตเท่าที่จำเป็น
ตอนกลางคืนย่านนี้จึงเงียบสงัดมาก ผมจึงมักจะนั่งทำงานชิวๆยามดึกเสมอ
นอกจากนี้ ย่าน sunset นี้อากาศจะดีกว่าในตัวเมืองซานฟรานซิสโก
ด้วยความที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ชื่อ Golden Gate park อยู่
ดังนั้นทุกครั้งที่ผมนั่งรถเมล์สาย 71 จากดาวทาวน์ ผมจะรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เราเข้าเขต sunset แล้ว
ผมรู้ได้จากอุณหภูมิที่เปลี่ยนอย่างฉับพลัน ไม่ว่าดาวทาวน์จะอากาศดีแค่ไหน แดดจะออก
อากาศจะร้อนเพียงใด เพียงเข้าเขต sunset อากาศจะเย็นยะเยือกขึ้นมาทันทีด้วยลมจากทะเล
แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ผมก็ชอบนะ เรียกได้ว่าตลอด 3 ปีที่อยู่ที่ sunset ผมมีความสุขดี
และถ้าวันไหนแดดดี ผมก็จะออกไปวิ่งตรงที่เก็บน้ำแถวบ้าน บริเวณนั้นเขาทำเป็นเนินหลายชั้น
สามารถวิ่งครบรอบได้ในเวลาประมาณ 12 นาทีต่อรอบ มีที่พัก สนามเด็กเล่น และม้านั่งเป็นแถวยาว
โดยจุดที่สูงที่สุดของตรงนั้น สามารถมองเห็นซานฟรานซิสโกได้กว้างเลยทีเดียว
คุณสามารถมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิก ทางด้านซ้าย แล้วถ้ากวาดสายตามาเรื่อยๆจะเห็นสะพานโกลเด้นเกทอยู่ไกลๆ
แล้วถ้าเพ่งไปทางขวาอีกหน่อยนะ นั่นละเกาะอัลคาทราซ ที่มาของหนังเรื่อง The Rock
เวลาผมวิ่งจนเหนื่อยก็มักจะมานั่งพักตรงบริเวณนี้ละ บ้างก็มีคนวิ่ง บ้างก็นั่งคุย บ้างก็เอาหมามาเดิน
และไอ้เอาหมามาเดินเนี่ยล่ะ ทำให้เกิดเรื่องขึ้น

เช้าวันนึงผมเดินออกจากบ้านตามปกติเพื่อจะไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง
แต่ยังไม่ทันจะพ้นตัวบ้าน ผมก็หันไปเห็นของสิ่งหนึ่งวางอยู่บนถังขยะพลาสติกของบ้านผม
พอเข้าไปดูใกล้ๆถึงรู้ว่าเป็นถุงพลาสติกใส่ขี้หมา
การเอาขี้หมาใส่ถุงพลาสติกเป็นเรื่องปกติของที่นี่ คนเลี้ยงหมาทุกคนควรจะพกและจัดการเก็บให้เรียบร้อยทุกครั้งที่พาหมาออกมาเดิน
ผมเชื่อว่าประชากรซานฟรานซิสโกส่วนใหญ่ปฏิบัติเช่นนั้น
ทีนี้ปัญหามันมีอยู่ว่า ไอ้ถุงพลาสติกใส่ขี้หมาอันนี้น่ะสิ มันดันมาอยุ่บนฝาถังขยะบ้านผม
ตอนนั้นผมกำลังรีบจะไปขึ้นรถ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก เปิดฝาแล้วเอาถุงนั้นทิ้งลงถังขยะก็จบ
เหตุการณ์ก็ปกติดี จนอาทิตย์ต่อมาผมก็เห็นไอ้ถุงพลาสติกใส่ขี้หมาบนฝาถังขยะอีก
ผมก็ไม่รุ้จะทำยังไง ก็เอามันยัดใส่ถังขยะซะ แล้วก็ดำเนินชีวิตตามปกติ
เหตุการณ์มันวนเวียนอยู่อย่างนี้ราวๆเกือบเดือน จนผมเริ่มทนไม่ไหว
จัดแจงปริ้นท์ประกาศสั้นๆ แปะหน้าถังขยะตรงจุดที่เจอไอ้เจ้าถุงพลาสติกนั่นประจำ
เนื้อความในประกาศนั้น ผมพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษว่า

"ถึงเจ้าของหมา กรุณาเก็บขี้หมาของหมาคุณไปทิ้งที่บ้าน หรือไม่ก็ช่วยเปิดฝาถังขยะแล้วทิ้งลงไปหน่อยเถิด"

ผมจำได้ว่าเขียนไปอย่างสุภาพ แกมขอร้องปนน่าสงสาร
แต่เชื่อมั้ย ว่าแม่งไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย!
ไอ้คนทิ้งถุงมันก็ยังทิ้งอยุ่เหมือนเดิม แุถมบางวันพี่แกเล่นเหวี่ยงถุงทำให้ขี้หมากระจายเต็มหน้าบ้าน
แล้วมันใช่เรื่องมั้ย ที่ผมต้องไปตามเก็บขี้หมาคนอื่น
เหตุการณ์ดำเนินเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ช่วงนั้นผมวุ่นกับการเรียนจึงไม่ได้คิดทำอะไรนอกจากรับสภาพซะ
เมื่อเจอขี้หมาใส่ถุงก็เอาไปทิ้งขยะโดยไม่ปริปากบ่น
จนวันนึงมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรุ้สึกว่าพอละ มันมากเกินไป
วันนั้นมีคนเอาตู้ปลาแตกๆมาทิ้งไว้หน้าถังขยะผม
ตู้ปลากระจกแตกๆ ขนาดประมาณฟุตนึง
วันนั้นผมโกรธมาก ไอ้คนทิ้งนี่มันไม่คิดอะไรเลยหรอ
แถวนี้มีเด็กเล็กเดินไปมาประจำ ถ้าเด็กเขาสะดุดล่ะ บาดเจ็บได้เลยนะ
ผมเลยจัดการพิมพ์ป้ายในคอมก่อนจะขยายแล้วทยอยปริ้นท์ออกมาประกอบกันเป็นแผ่นใหญ่ขนาดประมาณเมตรนึง
เนื้อหาบนป้ายเขียนไว้ว่า
" กรุณาหยุดทิ้งขยะ ตู้ปลาและขี้หมาหน้าบนคนอื่นเถอะ ได้โปรด"

ผมจัดการติดป้ายบนผนังบ้านหลังถังขยะด้วยความร่วมมือของเหล่าโฮมเมท
ถึงขนาดวิ่งไปอีกหัวมุมถนนเพื่อดูว่าอ่านได้ชัดเจนดีหรือไม่
ผมพึงพอใจกับป้ายนี้มาก และวันรุ่งขึ้นผมก็ไปเรียนตามปกติและคิดว่าต้องป้ายใหญ่แบบนี้สิน่าถึงจะเวิร์ก

จวบจนเลิกเรียนผมกลับบ้านมาในตอนเย็น
เพื่อมาพบกับ
ถุงพลาสติกใส่ขี้หมา
และรู้ไหมครับว่าไอ้เจ้าถุงพลาสติกนั่นมันอยู่ที่ไหน

นั่นละ

ใช่เลย

คุณคิดถูกแล้ว

แม่งเอาไปยัดไว้ในตู้ปลาที่แตก...


ปล. สุดท้ายเพื่อนบ้านแถวนั้นแนะนำให้โทรแจ้งขยะมาเก็บ ไม่งั้นถ้ามีคนบาดเจ๊บเราจะเป็นคนผิด
ปล2 ผมติดป้ายนั้นทิ้งไว้โดยไม่แกะออก และหลังจากครั้งล่าสุดก็ไม่มีถุงขี้หมามาโผล่อีกเลย แถมมักจะมีคนจอดรถตรงหน้าบ้านแล้วถ่ายรูปเป้นที่ระลึกเป็นประจำ

No comments:

Post a Comment