Sunday, May 25, 2014
The Cove
เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งผมกับเพื่อนร่วมงานคุยกันเรื่องปลาโลมา
เพื่อนร่วมงานที่เป็นเมกัน บอกผมว่าประเทศญี่ปุ่นเนี่ยมีการฆ่าปลาวาฬและปลาโลมาเป็นจำนวนมาก
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะสัตว์ทั้ง 2 ชนิดนี้ควรจะได้รับการยกเว้นไว้
ผมถามต่อว่าทำไมถึงคิดว่าถึงควรจะอนุรักษ์ไว้ละ ญี่ปุ่นเขาล่าเพื่อเป็นอาหารไม่ใช่หรือ
เพื่อนผมตอบว่า ก็ใช่ แต่ปลาโลมาเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และที่สำคัญคือมันฉลาดมาก เลยไม่ควรกินมัน
ผมถามต่อว่า อ้าว แล้วถ้าทางนั้นเขากินกันเป็นปกติ เรามีสิทธิ์ที่จะไปห้ามเขาไม่ให้กินอะไรและกินอะไรได้งั้นหรือ
นายยังกินวัวเลย ถ้าเราห้ามไม่ให้นายกินวัวจะได้ไหม
ผมจำไม่ได้ว่าคำตอบของเพื่อนผมคืออะไร แต่จำได้ว่ารู้สึกคาใจเลยไปหาสารคดีปลาโลมามาดูเพื่อหาคำตอบ
เรื่องที่ว่าคือ The Cove เป็นสารคดีที่ลักลอบถ่ายทำเพื่อให้เห็นถึงการล่าปลาโลมาประจำปีที่เมืองไทจิ ประเทศญี่ปุ่น
ผู้ดำเนินรายการคือดาราจากหนังซีรีย์ยุคเก่าที่ผันตัวมาทำงานกิจกรรมเกี่ยวกับปลาโลมาเต็มตัว
ตัวสารคดีเล่าถึงการเตรียมตัว เตรียมพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และวางแผนทั้งหลายแหล่
อารมณ์ตอนดูเหมือนกับดูหนังจารกรรมเรื่องหนึ่ง มีการประชุม วางข้อสรุป และโชว์ของเล่นอุปกรณ์ต่างๆ
เช่นกล้องที่เขาจะเอาไปแอบถ่าย มีการทำโครงรูปหินมาครอบจากทีมงาน Visual effect เหมือนชนิดที่ว่ามองด้วยตาเปล่านี่แยกไม่ออกเลยทีเดียว
ระหว่างดูผมคิดไปว่า มันเวอร์ไปรึเปล่า ตั้งกล้องเฉยๆก็ไม่มีใครเห็นแล้วมั้ง
จนกระทั่งทีมงานเดินทางไปถึงญี่ปุ่นและมุ่งสู่เมืองไท่จิ
และนับตั้งแต่ทีมงานย่างก้าวเข้าสู่เมือง ทีมงานซึ่งเป็นฝรั่งทั้งหมดถูกจับตามองตลอดเวลา
ไล่ไปตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนไปถึงกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาขอร้องแกมข่มขู่ให้ออกจากพืนที
ทีมสารคดีต้องพยายามอยู่นานกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ คือภาพการสังหารหมู่ปลาโลมา
ภาพที่เห็นคือกลุ่มชาวประมงต้อนฝูงปลาโลมาเข้าไปทีเวิ้งน้ำจากนั้นจึงใช้ฉมวกแทง
น้ำทะเลบริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงฉาน ขณะที่ปลาโลมาบางส่วนพยายามหาทางหนีแต่ก็ไม่สำเร็จ
จากนั้นภาพตัดไปที่ริมถนนขณะที่กลุ่มเด็กนักเรียนอนุบาลกลับบ้าน ปลาโลมมาบางส่วนก็ถูกลากมาวางริมถนน
ผมคิดว่าภาพเช่นนี้คงเป็นเรื่องปกติของเมืองนี้ เหล่าเด็กนักเรียนไม่ได้มีอาการตกใจแต่อย่างใด
จากนั้นผู้ดำเนินรายการกลับมาที่โตเกียว และเอาภาพวีดีโอที่ถ่ายได้ให้คนญี่ปุ่นทั่วไปดู
หลายคนตกใจในสิ่งที่เห็น เพราะพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีการทำเช่นนี้อยู๋
บางคนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทีมสารคดีทำเพราะเป็นการตัดสินด้วยวิถีที่ต่างกัน
ตัวผู้ดำเนินรายการพยายามชี้ให้เห็นว่าการล่าโลมาไม่มีประโยชน์เพราะเนื้อปลาโลมากินไม่ได้
เนื่องจากมีสารปรอทผสมอยู๋จำนวนมาก และที่น่าตกใจคือถึงแม้จะไม่มีการขายเนื้อปลาโลมาให้เห็น
แต่กลับขายเนื้อปลาโลมาโดยหลอกว่าเป็นเนื้อปลาวาฬแทน
ผมดูสารคดีชึ้นนี้จบด้วยคำถามที่เพิ่มขึ้น
เราควรล่าปลาโลมาไหม
แล้วถ้างั้นเราควรทำยังไงถึงจะเปลี่ยนความคิดของคนที่ล่าอยู่ได้
การไปห้ามนี่ถือเป็นการก้าวก่ายวิถีชีวิตที่ดำเนินมานานแล้วหรือไม่
และที่สำคัญคือเรามีสิทธิอะไรไปตัดสินคนอื่นว่าให้ทำสิ่งนี้และห้ามทำสิ่งนั้น
ปล. ผู้ดำเนินสารคดีคือ Richard O'Barry ดาราจากเรื่อง Flipper
ซีรีย์ยอดนิยมสมัยก่อนเป็นเรื่องเกี่ยวกับปลาโลมาแสนรู้ และความนิยมในการนำปลาโลมามาแสดงโชว์ก็เกิดจากความนิยมของซีรีย์ยอดฮิตนี้นั่นเอง
จุดผันเปลี่ยนของ Richard ในการหันมาอนุรักษ์ปลาโลมาคือเมื่อวันหนึ่งปลาโลมาจากเรื่อง Flipper ตัดสินใจไม่ขึ้นมาหายใจและตายในอ้อมกอดของเขา
Labels:
movie
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment