Sunday, March 2, 2014

แทกซี่ 2

เริ่มดึกแล้ว ผมยืนรอแท๊กซี่มาได้สักพักแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีคันไหนผ่านมา
จนกระทั่งผมเห็นแทกซี่สีฟ้าคันนึงกำลังจะเลี้ยวออกมาจากซอย
ผมโบกมือเรียก แทกซี่พยักหน้าก่อนเลี้ยวมาจอดข้างหน้าผม
คนขับเป็นลุงร่างสูงผมเกรียนสีดอกเลา
"ไปสุขุมวิทครับ" ผมบอกผ่านหน้าต่างข้างคนขับที่เปิดอยู่
เวลาผมเห็นแทกซี่ที่เปิดหน้าต่างแบบนี้ อคติจะเข้ามาเล็กน้อยเพราะรู้ว่านี่คือแทกซี่ที่เลือกผู้โดยสาร
"ขึ้นมาเลยน้องเอ้ย" วันนี้โชคเข้าข้างผมแฮะ
ผมก้าวขึ้นรถแทกซี่โดยมีเสียงเพลงคลาสสิกทางวิทยุคอยต้อนรับอยู่ แปลกดีสำหรับแทกซี่ที่ฟังเพลงคลาสสิก
ผมจัดแจงวางสัมภาระให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบมือถือมากดเล่นฆ่าเวลา แต่ยังไม่ทันที่จะเล่นอะไร ลุงคนขับชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า
"เป็นไงแมตช์วันนี้สนุกมั้ย" ลุงแทกซี่ทักทายด้วยน้ำเสียงร่าเริงความดังระดับพ้ง
"ก็ดีครับ สนุกดี"
"น้องว่าถ้ามาตีแข่งกับน้าใครจะชนะ"
นี่มันอะไร ผมคิดในใจ
"อ่า ผมเล่นไม่ค่อยเก่งน่ะครับ"
"งั้นน้าชนะชัวร์ " ลุงแทกซี่ตอบนิ่งๆ
"อาจจะผลัดกันแพ้กันชนะละมั้งครับ " จู่ๆผมก็ไม่อยากยอมแพ้ลุงแทกซี่ขึ้นมาเฉยๆ
"งั้นน้องรู้ไหมว่ากีฬาแบตเนี่ย ส่วนไหนของสรีระร่างกายที่สำคัญสุด"
"ข้อมือมั้งครับ" ผมตอบ
"2เต็ม10" ลุงแทกซี่ให้คะแนนอย่างรวดเร็ว
ห่ะ มีงี้ด้วย ผมสบถในใจ
"งั้นไหล่ "
"1 เต็ม 10 "
"ขาอ่ะ"
"0 เต็ม 10"
"ผมยอมแล้วครับ ส่วนไหนสำคัญสุดหรอครับ"
"ข้อเท้า"
"ข้อเท้า?"
"ใช่ ข้อเท้านี่ล่ะ ไว้สำหรับการสเตปไง เคยเห็นนักแบตมั้ยที่เขาซอยเท้าบ่อยๆน่ะ 
นั่นคือเขากำลังหาจังหวะเพื่อสเตป เมื่อจังหวะได้ แรงมันก็จะส่งไปถึงข้อมือเอง
ทีนี้จะตีอะไรทำอะไรก็ได้หมด" ลุงแทกซี่อธิบายมายาวเหยียด 
จริงรึเปล่าไม่รู้แต่ผมเริ่มจะคล้อยตามแล้ว
"นี่พี่เล่นแบตจริงจังหรอครับ" ผมอดถามไม่ได้
"น้าเล่นเอาสนุกน่ะ แต่ถ้าเราเล่นโดยรู้จักธรรมชาติของกีฬา มันจะทำให้เราสนุกยิ่งขึ้น สังเกตุจากสีหน้าขอวคนที่เล่นแล้วสนุกสิ อดีนารีนมันจะหลั่ง ความคิดจะฉับไว เมื่อร่างกายพร้อม จิตใจก็พร้อมแต่ก่อนจะพร้อมเราต้องเข้าใจธรรมชาติของมันเสียก่อน"
ผมทึ่งกับคำตอบของแทกซี่ หลังจากนั้นก็นั่งฟังแกอธิบายเรื่องรองเท้ากีฬาอยู่อีกพักใหญ่กับเรื่องกีฬากอล์ฟสุดโปรดของแกที่แกว่าจะเล่นจนวันตายและคนเล่นกอล์ฟเป็นคนดี
"แปลกไหมล่ะน้อง ที่วันนี้ขึ้นแทกซี่มาเจอใครที่ไหนพล่ามเรื่องอะไรให้ฟังเป็นชุดๆ"
"นี่เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นแทกซี่แล้วฟังเพลงคลาสสิกเนี่ยล่ะครับ" ผมตอบขณะที่เสียงเพลงของ Bachเพิ่งจบลงและVivaldi.กำลังจะเริ่ม (ที่รู้เพราะดีเจเป็นคนบอก)
บทสนทนาของเราเปลี่ยนไปเป็นเรื่องเพลงคลาสสิกแทน ผมรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในห้องเรียนวิชา music appreciation. หลังจากฟังลุงแกบรรยายเรื่องBach ผ่านเนินเขา กระท่อมริมน้ำที่มีปล่องไฟกำลังพ่นควันน้อยๆออกมาและทิวทัศน์อันน่ารื่นรมณ์ของเยอรมันแล้ว ผมเลยยิงคำถามสำคัญ
"ก่อนหน้านี้พี่ทำอะไรมาครับ"
"I can't speak about that anymore". ลุงแทกซี่ตอบด้วยภาษาอังกฤษพลางหัวเราะ
ยิ่งคุยก็ยิ่งคิดว่าแทกซี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ แกเล่าว่าการที่รับผมขึ้นรถเนี่ยก็เป็นไปตามแปลนที่แกวางไว้ว่าแกเข้ามาส่งผู้โดยสารพอเห็นผมก็รีบเตรียมเงินทอนให้ผู้โดยสารก่อนจะถึงที่หมายเพื่อวนออกมารับผมได้ จากนั้นแกอธิบายเรื่องการ planning และวาง route control เพื่อที่จะ cut loss และถึง final management ตาม goal. ที่ได้ plan ahead ไว้
แกทิ้งท้ายว่าสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขกับมันเนี่ยล่ะ ถึงจะดีที่สุด
การเข้าใจธรรมชาติของสิ่งที่เราทำ จะทำให้เรามีสติและสนุกกับมัน
บอกตามตรงผมจำไม่ได้ว่าเราคุยอะไรกันบ้างทั้งหมด แต่ที่ว่ามาช่วงครึ่งหลังแกพูดเป็นภาษาอังกฤษล้วนและผมได้แต่รับฟัง
ถึงที่หมายแล้ว ผมจ่ายค่าโดยสาร
ลุงแทกซี่รับ ก่อนกล่าวลา "ถึงแล้วก็อาบน้ำนอนซะนะ ดึกแล้ว you have a good night and take care." 
"Thanks, you too". ผมตอบก่อนปิดประตูรถแล้วเดินเข้าบ้าน

Monday, December 30, 2013

แทกซี่ 1


ผมเรียกแทกซี่คันนึงกลับบ้านตามปกติ แทกซี่คันนี้ผมเห็นเขาตอนเลี้ยวเข้าซอยมาส่งผู้โดยสารแล้ว
พอขากลับเขาขับออกมาก่อนผมจะเดินไปถึงวินมอไซค์ เลยบังเอิญได้ขึ้นคันนี้
ผมเปิดประตูบอกจุดหมาย ก่อนจะรอคำตอบรับว่าจะไปหรือไม่จากพี่คนขับ
ซึ่งนี่เป็นนิสัยที่เคยชินของผม ว่าจะเปิดประตูค้างแล้วรอฟังว่าคนขับจะไปหรือไม่จะได้ไม่เสียอารมณ์มาก
"ป่ะ พี่อาสาไปส่ง" พี่คนขับตอบรับ
นอกจากคำตอบรับที่ไม่คุ้นหูแล้ว น้ำเสียงพี่เขายังฟังดูสงบอยู่ด้วย
" น้องช่วยบอกทางนิดนึงนะ ปกติพี่วิ่งแถวรังสิตไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯ"
"ได้ครับ เดี๋ยวพี่ออกจากซอยแล้วหาที่ยูเทิร์นเลยนะครับ" ผมบอกคนขับก่อนจะนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
ตั้งแต่กลับมาจากอเมริกาได้ปีนึง ชีวิตยังดูเรื่อยเปื่อยลุ่มๆดอนๆ หลายเรื่องให้พะว้าพะวง
เหมือนยังหาหลักไม่เจอว่าจะทำอะไรต่อไป เรื่อยไปถึงหรือว่าเราจะไปบวชดี
" ถึงแยกแล้วไปทางไหนต่อครับ" เสียงพี่คนขับดึงผมออกจากภวัง
" วิ่งตรงยาวไปจนถึงอโศกเลยครับ" ผมตอบ
" โอเคครับ ผมรู้แค่ทางหลักๆน่ะ ไม่ค่อยได้วิ่งข้างในเท่าไหร่"
" ปกติพี่วิ่งแต่รังสิตหรอครับ"
" ใช่พี่วิ่งแถวรังสิต ปทุม ลำลูกกา แถวๆนี้ล่ะมันวนๆกันไป นานๆจะได้อาสาเข้ามาในกรุงเทพสักหน่อย"
" อ่อ หรอครับ" ในใจผมคิดว่าพี่น่าจะไปขับรถตู้นะ 
" แล้วน้องเคยไป ฟิวเจอร์รังสิต หรือดรีมเวิลด์ไหม"
" โอ้ นานมากแล้วพี่ ดรีมเวิลด์นี่ห้าหกเจ็ดแปดปีแล้วมั้งครับที่เคยไป"
" อ้อหรอ เมื่อก่อนพี่ก็ทำที่ดรีมเวิลด์เนี่ยล่ะ เลี้ยวซ้ายนี่ผ่านตลอดใช่ไหม"
" ใช่ครับ เลี้ยวได้เลยแต่มันจะติดพวกรถที่มาซ้อนเลนเยอะหน่อย แล้วพี่ทำอะไรหรอครับ"
" พี่เพนท์ไอ้เรือไวกิ้งนี่ล่ะ เขาซื้อของมือสองมาแล้วพี่เพนท์ให้เหมือนใหม่ เพนท์ไม้เป็นไม้"
น่าสนใจไม่น้อย ผมคิดเลยถามต่อ
" แล้วตอนนี้พี่ไม่ทำแล้วหรอครับ"
" พี่พอแล้ว อิ่มแล้ว"
" อิ่มแล้ว"
" พี่อิ่มทางงานนี้ เงินทองไม่ใช่สิ่งสำคัญต่อไป เหมือนเราจบปริญญาตรีแล้วซึ่งก็คือทางโลก พี่เลยเริ่มปริญญาโทซึ่งก็คือทางธรรมต่อไป"
" พี่ไปบวชอยู่นานแล้วก็เริ่มออกธุดงค์ ศึกษาสิ่งที่เรียกว่าจักรวาลจิต"
" จักรวาลจิตหรอครับ" 
" ใช่ จักรวาลจิต จิตน่ะมันเกิดขึ้นเร็วมาก วูบแวบแล้วก็ดับไป พี่เลยเรียกว่าจักรวาลจิต เปรียบเหมือนผ้าขาวถ้าเปื้อนน้ำมัน. เปื้อนซีอิ๊ว เราจะชำระล้างให้มันสะอาดก็ต้องใช้วิธีการที่ต่างกัน สติจึงเป็นสิ่งสำคัญ และถ้าจิตสามารถเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นสมาธิเองก็ต้องเกิดเพิ่มขึ้นได้ ยิ่งสมาธิมากเราก็ยิ่งควบคุมจิตได้"
ถึงตอนนี้รถถึงจุดหมายแล้ว แต่บทสนทนายังไม่จบผมเลยนั่งในรถคุยต่อกับพี่เขาอีกสักหน่อย
ก่อนจากพี่เขาฝากให้ว่าถ้าสนใจลองเข้าคอมพิวเตอร์แล้วหาคำนี้มาศึกษาต่อดู "พุทธวจน"
ความบังเอิญอาจเป็นลิขิตชีวิตก็ได้ที่คนมาเจอกัน

Wednesday, November 20, 2013

ชีวิตฟรีแลนซ์

กลับมาได้ปีกว่า ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่างาน freelance ประปราย
แต่ยิ่งทำยิ่งรู้สึกหมดไฟ งานที่ทำส่วนมากเป็นเกม แต่กลายเป็นงานชิ้นที่รู้สึกสนุกกับมันมากที่สุด
คืองานที่ทำเป็น sculpture
คงถึงเวลาที่จะนั่งคิดและจัดการชีวิตต่ออีกทีละมั้ง
แต่ก่อนอื่น ขอเคลียร์จ๊อบเหล่านี้ให้เสร็จไปก่อนละกัน
:P

Monday, October 14, 2013

ช้าง

พอดีกับต้มยำกุ้ง2เข้าพอดี เลยทำช้างขึ้นมา...
ไม่ใช่ละ!
เอาเป็นว่าทำช้างไปใช้ในเกมนี่ละ

 ช่วงเริ่มทำแรกๆ จะยังดูไม่ค่อยเหมือนช้างเท่าไหร่

 จากนั้นก็ตบๆปรับๆเพนท์ๆให้ดูเป็นช้าง

เสร็จ

Wednesday, October 9, 2013

สำเพ็ง

ไปสำเพ็งเมื่อวันอาทิตย์ ได้ไททัน(ก๊อป)มา 1 ตัว


Tuesday, October 1, 2013

Muay Thai sculpture

Just a gig that I got recently.
I designed a 3D sculpture for 3D print, then they will make a large size of it.
It will be a decorative sculpture for some Muay Thai exhibition.
It's still in progress, will see how it goes.