Wednesday, August 21, 2013
Monday, August 19, 2013
Thursday, August 15, 2013
Wednesday, August 14, 2013
Tuesday, August 13, 2013
Friday, August 9, 2013
Wednesday, August 7, 2013
ความเคยชิน
หลายครั้งที่ความเคยชินทำให้เราลืมตัว
ความเคยชินต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อไปอยุ่ในต่างที่ต่างเวลาต่างกาลเทศะ
สิ่งที่เราปฏิบัติจนชินนั้น อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่ก็ได้
โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้น เราปฏิบัติฝ่าฝืนกฏกันจนชินแล้ว
เรื่องนี้นึกย้อนไปถึงสมัยยังเรียนที่คณะสถาปัตย์
ที่คณะเราไม่ได้มีกฏเข้มงวดเรื่องการแต่งกายเท่าไหร่นัก (ในสมั้ยนั้นนะ ปัจจุบันนี่ไม่แน่ใจ)
อาจจะมีกฏที่เข้าใจกันภายในว่า ปีหนึ่ง นิสิตชายใส่เชิ้ตขาว กางเกงดำ ไทด์ไม่ต้องผูกก็ได้
จากนั้นปีสองขึ้นไปก็ขอให้แต่งตัวสุภาพก็พอ ไม่ใช่ลากแตะมาเรียน ไอ้นั่นก็เกินไป
ด้วยเหตุนี้ทำให้บางครั้ง เด็กอุเทนฯเข้าใจผิดว่าเป็นช่างกลและลากมาตีนานๆครั้ง
เวลาไปคณะคนภายนอกจึงอาจจะแยกไม่ออกว่าคนไหนนิสิต คนไหนคนนอก
คนในคณะส่วนมากจะดูกันเองออกว่าคนไหนคนนอก แต่มีขโมยมาเนียนๆบ้างก็เยอะ
เหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามปกติ จนเทอมนึงต้องไปสอบวิชานอกที่คณะครุศาสตร์
วันสอบก็ไม่ได้คิดอะไร แต่งตัวตามปกติ เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขาดที่เข่า 2 ข้าง
พอไปถึงนั่งที่สอบรวมกับนิสิตคณะอื่นๆ อาจารย์ที่คุมสอบเดินตรงเข้ามาถามทันทีว่า
"นิสิตครับ ทำไมถึงแต่งตัวไม่สุภาพใส่เกงเกงยีนส์มาสอบ"
วินาทีนั้น สมองแล่นไหลไปอ่านคู่มือนิสิตที่ได้รับเมื่อตอนปีหนึ่งทันทีว่า
ตามกฏแล้วนิสิตต้องแต่งกายสุภาพ ถูกระเบียบของมหาวิทยาลัย
แต่นาทีนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว เลยตอบออกไปว่า
"เมื่อวานฝนตกหนัก กางเกงผมยังไม่แห้งครับ เหลือแค่ตัวนี้ตัวเดียว" พร้อมตีหน้าเศร้า (เล่าความเท็จ)
ซึ่งโชคดีว่าเมื่อวานเย็นฝนตกหนักจริงๆ รวมถึงตอนสอบด้วย อาจารย์ท่านนั้นเลยปล่อยผ่านไป
ขณะที่กำลังโล่งใจกับความโชคดีของตัวเองอยู่นั้น ก็หันไปเห็นไอ้ใหม่
ไอ้ใหม่กำลังเดินลงมาหาที่นั่งสอบในชุดโปโลสีดำ และอาจารย์คุมสอบกำลังเดินเข้าไปหามัน
แม่ง มาจากคณะเดียวกันจริงๆ...
ความเคยชินต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อไปอยุ่ในต่างที่ต่างเวลาต่างกาลเทศะ
สิ่งที่เราปฏิบัติจนชินนั้น อาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่ก็ได้
โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้น เราปฏิบัติฝ่าฝืนกฏกันจนชินแล้ว
เรื่องนี้นึกย้อนไปถึงสมัยยังเรียนที่คณะสถาปัตย์
ที่คณะเราไม่ได้มีกฏเข้มงวดเรื่องการแต่งกายเท่าไหร่นัก (ในสมั้ยนั้นนะ ปัจจุบันนี่ไม่แน่ใจ)
อาจจะมีกฏที่เข้าใจกันภายในว่า ปีหนึ่ง นิสิตชายใส่เชิ้ตขาว กางเกงดำ ไทด์ไม่ต้องผูกก็ได้
จากนั้นปีสองขึ้นไปก็ขอให้แต่งตัวสุภาพก็พอ ไม่ใช่ลากแตะมาเรียน ไอ้นั่นก็เกินไป
ด้วยเหตุนี้ทำให้บางครั้ง เด็กอุเทนฯเข้าใจผิดว่าเป็นช่างกลและลากมาตีนานๆครั้ง
เวลาไปคณะคนภายนอกจึงอาจจะแยกไม่ออกว่าคนไหนนิสิต คนไหนคนนอก
คนในคณะส่วนมากจะดูกันเองออกว่าคนไหนคนนอก แต่มีขโมยมาเนียนๆบ้างก็เยอะ
เหตุการณ์ก็ดำเนินไปตามปกติ จนเทอมนึงต้องไปสอบวิชานอกที่คณะครุศาสตร์
วันสอบก็ไม่ได้คิดอะไร แต่งตัวตามปกติ เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขาดที่เข่า 2 ข้าง
พอไปถึงนั่งที่สอบรวมกับนิสิตคณะอื่นๆ อาจารย์ที่คุมสอบเดินตรงเข้ามาถามทันทีว่า
"นิสิตครับ ทำไมถึงแต่งตัวไม่สุภาพใส่เกงเกงยีนส์มาสอบ"
วินาทีนั้น สมองแล่นไหลไปอ่านคู่มือนิสิตที่ได้รับเมื่อตอนปีหนึ่งทันทีว่า
ตามกฏแล้วนิสิตต้องแต่งกายสุภาพ ถูกระเบียบของมหาวิทยาลัย
แต่นาทีนั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว เลยตอบออกไปว่า
"เมื่อวานฝนตกหนัก กางเกงผมยังไม่แห้งครับ เหลือแค่ตัวนี้ตัวเดียว" พร้อมตีหน้าเศร้า (เล่าความเท็จ)
ซึ่งโชคดีว่าเมื่อวานเย็นฝนตกหนักจริงๆ รวมถึงตอนสอบด้วย อาจารย์ท่านนั้นเลยปล่อยผ่านไป
ขณะที่กำลังโล่งใจกับความโชคดีของตัวเองอยู่นั้น ก็หันไปเห็นไอ้ใหม่
ไอ้ใหม่กำลังเดินลงมาหาที่นั่งสอบในชุดโปโลสีดำ และอาจารย์คุมสอบกำลังเดินเข้าไปหามัน
แม่ง มาจากคณะเดียวกันจริงๆ...
Monday, August 5, 2013
The Bat
โลโก้หมาน้อยชิวาว่าที่เหมือนโดเบอร์แมนตัวเล็กๆซะมากกว่า
คอนเซปมาจากชื่อหมาเลยคือแบทแมน เนื่องจากดูแล้วมันเหมือนแบทแมน แต่จะใช้แบทแมนเลยมันดูเป็นมุขภายในไป เลยคิดต่อว่างั้นเน้นที่แบท ค้างคาว พอค้างคาวก็นึกถึงแดรกคูล่า เลยลองออกแบบให้ลายบนตัวเหมือน ปกเสื้อคลุมตั้งๆของแดรกคูล่าแบบคลาสสิก ก็ออกแบบไปเรื่อยแล้วเรื่องชื่อก็เอาความเป็นหมามาเล่นกับคำเลยเป็น dogcula ไอเดียชื่อผสมนี้เอามาจากการ์ตูนที่ดูตอนเด็กเรื่อง Duckula ตัวเอกเป็นเป็ดที่เป็นแดรกคูล่าเลยชื่อว่า ดั๊กคูล่า ที่มาก็เป็นดังนี้เอง
ตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้เป็นแบรนด์ของเคสมือถือที่ทำ ก็ทำไปได้ส่วนนึงนะแต่ตอนนี้หยุดไปยาวเลย ส่วนที่เห็นเป็นแบบตั้งแต่แรกๆ จนมาถึง Dogcula หลังๆแล้วต่อยอดเพิ่มไปอีกชั้นเป็น The Bat ซึ่งทำเล่นๆ
งานที่มันทำตามใจเราเองนี่มันยังไงก็สนุกกว่างานที่จ้างทำเสมอนะ
คอนเซปมาจากชื่อหมาเลยคือแบทแมน เนื่องจากดูแล้วมันเหมือนแบทแมน แต่จะใช้แบทแมนเลยมันดูเป็นมุขภายในไป เลยคิดต่อว่างั้นเน้นที่แบท ค้างคาว พอค้างคาวก็นึกถึงแดรกคูล่า เลยลองออกแบบให้ลายบนตัวเหมือน ปกเสื้อคลุมตั้งๆของแดรกคูล่าแบบคลาสสิก ก็ออกแบบไปเรื่อยแล้วเรื่องชื่อก็เอาความเป็นหมามาเล่นกับคำเลยเป็น dogcula ไอเดียชื่อผสมนี้เอามาจากการ์ตูนที่ดูตอนเด็กเรื่อง Duckula ตัวเอกเป็นเป็ดที่เป็นแดรกคูล่าเลยชื่อว่า ดั๊กคูล่า ที่มาก็เป็นดังนี้เอง
ตอนแรกตั้งใจว่าจะใช้เป็นแบรนด์ของเคสมือถือที่ทำ ก็ทำไปได้ส่วนนึงนะแต่ตอนนี้หยุดไปยาวเลย ส่วนที่เห็นเป็นแบบตั้งแต่แรกๆ จนมาถึง Dogcula หลังๆแล้วต่อยอดเพิ่มไปอีกชั้นเป็น The Bat ซึ่งทำเล่นๆ
งานที่มันทำตามใจเราเองนี่มันยังไงก็สนุกกว่างานที่จ้างทำเสมอนะ
กัสเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต
นั่งทำเล่นเมื่อเช้านี้ เป็นทีมบอลในวินนิ่งที่ทำขึ้นมาแข่งกับพี่ น้อง และเพื่อนพี่
อะไรที่มันทำเล่นๆนี่มันสนุกกว่างานจริงๆทุกทีเลย
อะไรที่มันทำเล่นๆนี่มันสนุกกว่างานจริงๆทุกทีเลย
Subscribe to:
Posts (Atom)